๑. การอ่านจำนวนตัวเลขตั้งแต่ ๒ หลักขึ้นไป
ถ้าตัวเลขท้ายเป็นเลข ๑ ให้อ่านออกเสียง “เอ็ด” เช่น
๑๑ อ่าน สิบ-เอ็ด
หมายเหตุ
เลข ๑ ที่ออกเสียง เอ็ด ในกิจการทหารเรือออกเสียงเป็นหนึ่งเสมอไป เช่น
๑๑ อ่าน สิบ-หนึ่ง
๒. การอ่านตัวเลขที่มีจุดทศนิยม
๑) ตัวเลขหน้าจุดทศนิยม ให้อ่านแบบจำนวนเต็ม
ตัวเลขหลังจุดทศนิยมให้อ่านแบบเรียงตัว
เช่น
๑.๑๑ อ่าน หนึ่ง-จุด-หนึ่ง-หนึ่ง
๒) ตัวเลขที่เป็นเงินตราหรือหน่วยนับ
ให้อ่านหน่วยเงินตราหรือหน่วยนับนั้น ๆ
เช่น
๓.๕๐ บาท อ่าน สาม-บาด-ห้า-สิบ-สะ-ตาง
๑๐.๔๒ เมตร อ่าน สิบ-เม็ด-สี่-สิบ-สอง-เซ็น-ติ-เม็ด
๓. การอ่านตัวเลขบอกเวลา
๑) การอ่านชั่วโมงที่ไม่มีจำนวนนาที เช่น
๐๘.๐๐ น.
อ่าน แปด-นา-ลิ-กา
๒) การอ่านชั่วโมงกับนาที เช่น
๑๑.๒๕ น. อ่าน สิบ-เอ็ด-นา-ลิ-กา-ยี่-สิบ-ห้า-นา-ที
๔. การอ่านเลขหนังสือราชการ
นิยมอ่านเรียงตัว เช่น
หนังสือที่ ศธ ๐๐๓๐.๐๑/๕๙๗ ลว.
๘ พย. ๒๕๕๑
อ่านว่า
หนัง-สือ-ที่-สอ-ทอ-สูน-สูน-สาม-สูน-จุด-สูน-หนึ่ง-ทับ-ห้า-เก้า-
เจ็ด
ลง-วัน-ที่-แปด-พรึด-สะ-จิ-กา-ยน-พุด-ทะ-สัก-กะ-หราด-
สอง-พัน-ห้า-ร้อย-ห้า-สิบ-เอ็ด
๕. การอ่านบ้านเลขที่
เลขที่บ้านไม่มีทับหรือเลขที่บ้านมีทับที่เป็นเลข ๒ หลัก อ่านแบบจำนวนเต็ม
ถ้าเป็นเลข ๓หลักขึ้นไป อ่านแบบจำนวนเต็มหรือแบบเรียงตัวก็ได้ แต่ถ้าขึ้นต้นเลข ๐
อ่านเรียงตัวเสมอ ส่วนเลขหลังทับอ่านเรียงตัว
เช่น
บ้านเลขที่ ๕๑๕ อ่านว่า บ้าน-เลก-ที่-ร้อย-สิบ-ห้า
หรือ บ้าน-เลก-ที่-ห้า-หนึ่ง-ห้า
๖. การอ่านหมายเลขโทรศัพท์
การอ่านหมายเลขโทรศัพท์ ให้อ่านแบบเรียงตัว
ยกเว้นเลข ๒ กำหนดให้อ่านว่า โท
เพราะหมายเลขโทรศัพท์ประกอบด้วย ๘-๑๐ ตัว บางครั้งอาจมีเลข ๒ และ ๓
ซ้ำกันหลายตัว เสียงอ่านเลข ๒ กับ ๓ มีเสียงใกล้เคียงกันเวลาอ่านอาจทำให้สับสนได้
จึงกำหนดให้อ่านเลข ๒ ว่าโท เพื่อให้เสียงอ่านแตกต่างกันออกไป
ส่วนรหัสทางไกลและรหัสประเทศยังคงกำหนดให้อ่านเลข ๒ ว่าสอง
เนื่องจากเป็นรหัสที่มีจำนวนตัวเลขน้อย
และเพื่อแยกให้ชัดเจนระหว่างหมายเลขโทรศัพท์กับรหัสทางไกลและรหัสประเทศ เช่น